การฝึกฝนอย่างตั้งใจและการตั้งเป้าหมายใน Mastery Development Plan

Performing และ Practicing เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้ผู้เรียนก้าวหน้าสู่ระดับสูงขึ้นใน Mastery Development Plan การฝึกฝนแบบละเอียด (Deliberative Practice) แตกต่างจากการฝึกแบบทั่วไป เนื่องจากการฝึกในลักษณะนี้ช่วยให้ผู้เรียนได้รับประโยชน์สูงสุดจากเวลาและพลังงานที่ทุ่มเทไป นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างทักษะเฉพาะที่จำเป็นในการก้าวหน้าไปสู่ระดับถัดไปได้อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพ

การฝึกฝนอย่างตั้งใจ (Deliberate Practice)

การฝึกฝนอย่างตั้งใจต้องการการมีเป้าหมายที่ชัดเจนและโครงสร้างที่เป็นระเบียบ โดยตัวอย่างเช่น การฝึกการวิเคราะห์ข้อมูล โดยการตั้งเป้าหมายที่แน่นอนในการฝึกฝน เช่น การทำความเข้าใจใน Market Analysis เพื่อให้สามารถลดความเสี่ยงและเพิ่มผลตอบแทนได้ในระยะยาว ผู้เรียนที่ฝึกฝนแบบละเอียดนี้จะต้องตรวจสอบฟีดแบคและวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการฝึกฝนเป็นประจำ เพื่อพัฒนาทักษะและปรับปรุงเทคนิคของตนอย่างต่อเนื่อง การฝึกฝนในลักษณะนี้ทำให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาทักษะและความเชี่ยวชาญได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

การตั้งเป้าหมายอย่างมีโครงสร้างเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

การตั้งเป้าหมาย (Goal Setting) ช่วยให้ผู้เรียนสามารถโฟกัสที่หัวข้อหรือ Lesson ที่ต้องการพัฒนาได้โดยตรง การตั้งเป้าหมายที่มีโครงสร้างและสามารถวัดผลได้จะช่วยให้ผู้เรียนมีทิศทางชัดเจนและสามารถติดตามความก้าวหน้าในแต่ละขั้นตอนได้ ตัวอย่างเช่น การตั้งเป้าหมายให้เขียนโค้ดโดยไม่ดูตัวอย่างภายใน 10 นาที ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างการจัดการเวลาและสร้างทักษะความเชี่ยวชาญอย่างต่อเนื่อง การตั้งเป้าหมายที่สามารถวัดผลได้จะทำให้ผู้เรียนรู้สึกถึงความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายแต่ละขั้นตอน และเพิ่มความมั่นใจในความก้าวหน้า

ประเภทของฟีดแบคในการฝึกฝน

ฟีดแบคเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถปรับปรุงทักษะได้อย่างตรงจุด โดยมีฟีดแบคหลายประเภท เช่น Technical Feedback ซึ่งเน้นการวิเคราะห์ผลลัพธ์เชิงเทคนิค ช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาได้อย่างมีระบบ Experience Feedback เป็นฟีดแบคที่เกิดจากการฝึกฝนตามประสบการณ์ของผู้เรียน ช่วยให้เกิดการเรียนรู้จากความผิดพลาดและการปรับปรุงการทำงานของตน ส่วน Mental Feedback จะเสริมสร้างความมั่นใจและเป็นกำลังใจในการฝึกฝนเพิ่มเติม ฟีดแบคเหล่านี้ช่วยให้ผู้เรียนสามารถติดตามพัฒนาการของตนและปรับปรุงทักษะได้อย่างต่อเนื่อง

การสร้างสมดุลระหว่างความพยายามและความคาดหวังด้วย SMART Goals

การตั้งเป้าหมายแบบ SMART (Specific, Measurable, Actionable, Realistic, Timely) ช่วยให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาทักษะได้อย่างมีประสิทธิภาพและสม่ำเสมอ โดยการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและสามารถวัดผลได้เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความยั่งยืนของการเรียนรู้ การตั้งเป้าหมายที่มีความเฉพาะและสมดุลช่วยให้ผู้เรียนรู้สึกไม่ท้อแท้ เช่น การกำหนดเวลาฝึกฝนทุกวันเพียง 15 นาทีเพื่อให้เกิดการฝึกฝนที่ต่อเนื่อง การตั้งเป้าหมายที่วัดผลได้อย่างสมดุลและตรงกับความสามารถของผู้เรียนจะช่วยให้เกิดความเข้มข้นในการเรียนรู้และความมั่นใจเมื่อต้องเผชิญกับความท้าทาย

การตั้งเป้าหมายที่ดีและข้อควรหลีกเลี่ยง

การตั้งเป้าหมายที่ดีมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาทักษะ การตั้งเป้าหมายแบบกว้างๆ เช่น “จะเรียนรู้การเขียนโค้ด” โดยไม่มีรายละเอียดอาจทำให้ผู้เรียนไม่สามารถติดตามความก้าวหน้าได้ชัดเจน แต่หากตั้งเป้าหมายที่มีความเฉพาะ เช่น “เขียนโค้ดให้เสร็จภายใน 10 นาทีโดยไม่ดูตัวอย่าง” จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถวัดผลได้ชัดเจน และรู้ว่าต้องทำอะไรเพิ่มเติมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในระยะยาว นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้เรียนมองเห็นพัฒนาการของตนและมีความมุ่งมั่นในการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง การตั้งเป้าหมายที่ดีจะช่วยให้ผู้เรียนสามารถสร้างพัฒนาการและฝึกฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความสำคัญของการฝึกฝนและการตั้งเป้าหมายในการพัฒนาตนเอง

การฝึกฝนและการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากความผิดพลาดและมองเห็นข้อบกพร่องของตน การตั้งเป้าหมายและการฝึกฝนอย่างมีโครงสร้างช่วยให้ผู้เรียนสามารถเตรียมตัวให้พร้อมเมื่อต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ การฝึกฝนอย่างตั้งใจช่วยให้ผู้เรียนได้สะสมประสบการณ์ที่มีค่า และทำให้เข้าใจถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของตนเอง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาความสามารถอย่างเต็มที่

คำถาม

  1. การฝึกฝนแบบ Deliberative Practice แตกต่างจากการฝึกฝนแบบปกติอย่างไร?
  2. หลักการสำคัญของ Knowledge-Practice-Analysis-Experience เพื่อพัฒนา Skills มีอะไรบ้าง?
  3. การกำหนด Goal Setting อย่างไรจึงจะเรียกว่า S.M.A.R.T.?
  4. ทำไมต้องมีการกำหนด Action-Oriented Plan เมื่อตั้งเป้าหมาย?
  5. อะไรคือประโยชน์หลักของ Immediate & Detailed Feedback ในการฝึกฝน?

สรุป

การฝึกฝนและการตั้งเป้าหมายอย่างละเอียดใน Mastery Development Plan ช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะได้อย่างยั่งยืน การฝึกฝนแบบ Deliberate Practice และการตั้งเป้าหมาย SMART Goals สร้างเส้นทางที่ชัดเจนในการพัฒนาและเสริมสร้างความเชื่อมั่นในทักษะของผู้เรียน การใช้ฟีดแบคที่เหมาะสม เช่น Technical Feedback และ Experience Feedback ทำให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างเป็นระบบและยั่งยืน

คำสำคัญ: Performing, Deliberate Practice, Goal Setting, Technical Feedback, SMART Goals
อ้างอิง: D905-1 Performing Practicing and Goal Setting