การติดตามแนวโน้มด้วยเงื่อนไข Point และ Span ในการเทรด

การติดตามแนวโน้ม (Trend Following) เป็นเทคนิคที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของตลาดที่มีแนวโน้มไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง การใช้เงื่อนไขแบบ Point และ Span เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถกำหนดเงื่อนไขการซื้อขายได้อย่างยืดหยุ่นและตอบสนองต่อสภาวะตลาด บทความนี้จะพาผู้เรียนทำความเข้าใจวิธีการใช้งานเงื่อนไข Point และ Span และข้อดีข้อเสียของแต่ละวิธี

เงื่อนไขแบบ Point

เงื่อนไขแบบ Point เป็นการตั้งค่าให้เกิดสัญญาณซื้อขายเฉพาะเมื่อมีการตัดขึ้นของเส้นค่าเฉลี่ยสั้น (เช่น MA20) กับเส้นค่าเฉลี่ยยาว (เช่น MA60) หรือที่เรียกว่าการ Cross Over จุดนี้เป็นสัญญาณเฉพาะและแม่นยำ แต่อาจทำให้พลาดการเข้าหรือออกจากตำแหน่งเนื่องจากการเคลื่อนไหวของตลาดที่รวดเร็ว วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัญญาณที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจงในการเทรด แต่มีข้อเสียคือการยึดกับจุดตัดที่แม่นยำมากเกินไปอาจทำให้พลาดโอกาสในบางครั้ง

เงื่อนไขแบบ Span

เงื่อนไขแบบ Span เป็นการกำหนดให้เงื่อนไขการซื้อขายเกิดขึ้นในช่วงที่มีการครอบคลุมของเส้นค่าเฉลี่ยในระยะเวลาหนึ่ง เช่น MA20 ต้องอยู่เหนือ MA60 ตลอดช่วงเวลาที่กำหนดไว้ เงื่อนไขนี้จะทำให้สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้ดีกว่า เพราะไม่ยึดติดกับจุดใดจุดหนึ่ง แต่มีข้อเสียคืออาจทำให้เกิดการเข้าตำแหน่งช้ากว่าที่ควร ซึ่งอาจส่งผลให้กำไรลดลงในบางกรณี

การผสมผสาน Point และ Span (Point-to-Span)

การใช้ Point-to-Span เป็นการผสมผสานระหว่างเงื่อนไขทั้งสองแบบ โดยจะใช้สัญญาณ Point เพื่อเข้าตำแหน่งตามเงื่อนไขที่เกิดขึ้นก่อน และใช้ Span เพื่อยืนยันเงื่อนไขในช่วงเวลาที่กว้างขึ้น ทำให้ผู้เรียนสามารถรอให้สัญญาณ Span ยืนยันการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความแม่นยำในการเข้าซื้อขาย

การใช้ Indicators ในการยืนยันเงื่อนไข

การใช้ Indicators อย่างเช่น ADX, PDI, และ MDI ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเงื่อนไขการซื้อขาย โดย ADX เป็นตัวบ่งชี้ความแข็งแกร่งของแนวโน้มที่ช่วยให้ผู้เรียนรู้ว่าควรเข้าซื้อหรือไม่ หากค่าของ ADX สูง จะเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มมีความแข็งแกร่งและมีโอกาสสร้างกำไรได้มากขึ้น

มุมมองการเทรดเชิงเปรียบเทียบ

การติดตามแนวโน้มเปรียบเสมือนการมีความสัมพันธ์ที่ต้องใช้ความอดทนและการรู้เวลาที่ควรปล่อยวาง การเทรดที่ดีจะไม่ใช้แต่อารมณ์ส่วนตัว ผู้เรียนควรตั้งเป้าหมายและวางแผนอย่างชัดเจน การเข้าใจว่าตลาดมีขึ้นมีลงช่วยให้ผู้เรียนวางแผนความเสี่ยงและหลีกเลี่ยงความเสียหายจากการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด

คำถาม

  1. อะไรคือความแตกต่างหลักระหว่าง Point Type และ Span Type Conditions?
  2. การใช้ Point-To-Span Condition ช่วยแก้ปัญหาใดในการสร้าง Signal?
  3. การเพิ่ม Indicator ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของ Signal อย่างไร?
  4. ระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับ Span Type Condition ควรพิจารณาจากปัจจัยใด?
  5. เหตุใดต้องระวังเรื่อง Late Signal ในการใช้ Span Type Condition?

สรุป

การใช้เงื่อนไขแบบ Point และ Span ในการติดตามแนวโน้มมีทั้งข้อดีและข้อเสีย การเข้าใจการทำงานของแต่ละแบบจะช่วยให้ผู้เรียนสามารถสร้างกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสมตามสภาพตลาด การผสมผสานวิธีการ Point-to-Span ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการเทรดและลดความเสี่ยงจากการเคลื่อนไหวของตลาด ผู้เรียนที่ใช้วิธีนี้จะมีการควบคุมพอร์ตและลดความเสี่ยงจากการตัดสินใจที่รวดเร็วเกินไป

คำสำคัญ: Point Type, Span Type, ADX, Point-to-Span, Indicators

อ้างอิง: D105 Trend Following with Point vs Span