การปรับปรุงตารางเปรียบเทียบระหว่าง In-Sample และ Out-of-Sample สำหรับการประเมินกลยุทธ์

การเปรียบเทียบผลลัพธ์ระหว่างช่วง In-Sample (IS) และ Out-of-Sample (OOS) เป็นสิ่งที่สำคัญในการทดสอบกลยุทธ์การลงทุน เนื้อหานี้จะแสดงขั้นตอนการปรับปรุงตารางเปรียบเทียบเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เข้าใจง่ายขึ้น พร้อมทั้งแนะนำวิธีการปรับพารามิเตอร์และใช้เครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์อย่างละเอียด

ภาพรวมของตารางเปรียบเทียบก่อนหน้านี้และปัญหาที่พบ

จากวิดีโอก่อนหน้านี้ เราได้สร้างตารางเปรียบเทียบระหว่าง IS และ OOS แต่พบว่ามีข้อจำกัดบางอย่างในด้านการตั้งค่าและการจัดรูปแบบ การปรับปรุงครั้งนี้จะเริ่มต้นด้วยการแก้ไขตารางให้มีโครงสร้างที่ชัดเจนขึ้น เพื่อให้การวิเคราะห์เป็นไปได้อย่างรวดเร็วและสะดวก

การปรับตารางเปรียบเทียบระหว่าง IS และ OOS

การปรับตารางในครั้งนี้ เน้นที่การจัดโครงสร้างคอลัมน์และแถวให้ชัดเจน โดยแบ่งค่า Stop Loss, Stop Trailing, และ Stop Profit ออกเป็นช่วง ๆ เพื่อให้สามารถติดตามผลลัพธ์ได้อย่างง่ายดาย การใช้คอลัมน์และเฮดเดอร์ที่มีความสัมพันธ์กันจะช่วยลดโอกาสการเกิดข้อผิดพลาดระหว่างการคำนวณ

การปรับพารามิเตอร์และการ Optimize ระดับต่าง ๆ

ในขั้นตอนนี้ เราจะปรับพารามิเตอร์ Stop Loss ในช่วง 10% ถึง 20% Stop Trailing ที่ 20% ถึง 25% และ Stop Profit ระหว่าง 35% ถึง 45% การปรับระดับเหล่านี้เป็นการเพิ่มความสามารถในการปรับตัวของกลยุทธ์ตามสถานการณ์ตลาดที่แตกต่างกัน

การปรับรูปแบบการแสดงผลด้วย Conditional Formatting

การใช้ Conditional Formatting ช่วยให้การวิเคราะห์ผลลัพธ์จากตารางทำได้ง่ายขึ้น โดยการตั้งค่าการแสดงผลให้มีสีแตกต่างกันในกรณีที่ผลลัพธ์มีค่าติดลบหรือสูงกว่าค่าที่กำหนด การแสดงผลด้วยวิธีนี้ช่วยให้สามารถระบุได้ทันทีว่าค่าพารามิเตอร์ใดทำงานได้ดีหรือไม่ดี

การวิเคราะห์ผลลัพธ์และการตัดสินใจปรับกลยุทธ์

หลังจากทำการปรับปรุงตารางและปรับพารามิเตอร์แล้ว เราสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์ โดยการพิจารณาค่าที่ให้ผลลัพธ์ดีที่สุดและการทดสอบซ้ำเพื่อยืนยันความเสถียรของกลยุทธ์ การทำเช่นนี้ช่วยให้มั่นใจว่ากลยุทธ์พร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี

สแนปชอต

คำถาม

  1. การปรับปรุงตารางเปรียบเทียบระหว่าง In Sample และ Out of Sample มีวัตถุประสงค์อย่างไร?
  2. วิธีการสร้างตารางเปรียบเทียบที่มีประสิทธิภาพใน Excel ทำอย่างไร?
  3. หลักการในการจัดการข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบผลระหว่าง In Sample และ Out of Sample มีอะไรบ้าง?
  4. เหตุใดการจัดรูปแบบตารางเปรียบเทียบที่ดีจึงมีความสำคัญต่อการวิเคราะห์?
  5. วิธีการตรวจสอบความถูกต้องของสูตรและการอ้างอิงในตารางเปรียบเทียบทำอย่างไร?

สรุป

การปรับปรุงตารางเปรียบเทียบระหว่าง In-Sample และ Out-of-Sample ช่วยให้การวิเคราะห์กลยุทธ์มีความชัดเจนและรวดเร็วยิ่งขึ้น การใช้ Conditional Formatting ในการแสดงผล การปรับพารามิเตอร์ของ Stop Loss, Stop Trailing, และ Stop Profit และการตัดสินใจปรับกลยุทธ์จากข้อมูลที่ได้ทำให้กลยุทธ์มีความเสถียรและมีความยืดหยุ่นในการจัดการความเสี่ยงในอนาคต

คำสำคัญ: In-Sample, Out-of-Sample, Comparison Table, Stop Loss, Stop Trailing, Stop Profit, Conditional Formatting
อ้างอิง: Q405-9 Improve Comparison Table between IS and OOS