การทดสอบกลยุทธ์ระบบเทรดหุ้นในโปรแกรม AmiBroker: เริ่มต้นใช้งาน Backtest สำหรับมือใหม่

การเทรดหุ้นไม่ใช่เรื่องง่าย การวางกลยุทธ์ในการซื้อขายหุ้นที่ดีต้องผ่านการทดสอบอย่างละเอียดและมั่นคง เพื่อให้มั่นใจได้ว่ากลยุทธ์นั้นสามารถใช้งานได้จริงและสร้างผลกำไรได้ในระยะยาว หนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่นักลงทุนใช้ในการทดสอบกลยุทธ์คือโปรแกรม AmiBroker ซึ่งมีฟังก์ชันการทดสอบกลยุทธ์ย้อนหลัง หรือที่เรียกว่า Backtest บทความนี้จะแนะนำการเริ่มต้นใช้งาน Backtest ใน AmiBroker สำหรับมือใหม่ พร้อมคำแนะนำในการสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาทักษะของคุณ

Backtest คืออะไร?

Backtest คือการทดสอบระบบซื้อขายหุ้นของเราโดยใช้ข้อมูลในอดีต เพื่อดูว่ากลยุทธ์นั้น ๆ จะสร้างผลกำไรหรือขาดทุนได้อย่างไร หากกลยุทธ์ที่เราออกแบบทำงานได้ดีในอดีต นั่นเป็นสัญญาณที่ดีว่ามันอาจทำงานได้ดีในอนาคตด้วยเช่นกัน แต่ถ้าไม่สำเร็จ เราก็สามารถปรับปรุงกลยุทธ์ได้โดยไม่ต้องเสี่ยงเงินลงทุนจริง การทำ Backtest จึงเป็นขั้นตอนสำคัญในการพัฒนาระบบการเทรด

เริ่มต้นใช้งาน Backtest ใน AmiBroker

1. เปิดโปรแกรมและสร้าง Analysis Document

เมื่อเปิดโปรแกรม AmiBroker ขึ้นมา ให้เริ่มต้นด้วยการสร้าง Analysis Document ซึ่งเป็นเอกสารที่จะใช้ในการทดสอบกลยุทธ์ คุณสามารถกำหนดช่วงเวลาที่ต้องการทดสอบได้ เช่น จากปี 2011 ถึงปี 2015 จากนั้นเลือกหุ้นหรือสินทรัพย์ที่ต้องการทดสอบระบบการเทรด การตั้งค่าช่วงเวลานี้จะช่วยให้คุณสามารถดูประสิทธิภาพของกลยุทธ์ได้ชัดเจน

2. เขียนสูตร (Formula) สำหรับระบบการซื้อขาย

ในการทำ Backtest คุณต้องมี สูตรหรือ Formula ที่จะบอกให้โปรแกรมรู้ว่าควรซื้อหรือขายหุ้นเมื่อไหร่ ตัวสูตรนี้สามารถเขียนขึ้นมาเองได้ตามเงื่อนไขที่คุณต้องการ เช่น การซื้อเมื่อ Moving Average ตัดขึ้น หรือการขายเมื่อราคาหุ้นต่ำกว่าเส้นเทรนด์ไลน์ เมื่อเขียนสูตรเสร็จแล้ว คุณสามารถบันทึกสูตรนี้ไว้ใน Custom Formula เพื่อนำไปใช้ในการทดสอบได้ในภายหลัง

3. เริ่มต้นทดสอบ Backtest

หลังจากตั้งค่าข้อมูลและเขียนสูตรเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถกดปุ่ม Backtest เพื่อเริ่มทดสอบกลยุทธ์ของคุณ โปรแกรมจะคำนวณผลลัพธ์ตามสูตรและข้อมูลที่คุณกำหนดไว้ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถดูได้ว่ากลยุทธ์นั้นทำกำไรหรือขาดทุนในช่วงเวลาที่ทดสอบอย่างไรบ้าง

การวิเคราะห์ผลลัพธ์จาก Backtest

เมื่อคุณทำการทดสอบกลยุทธ์แล้ว สิ่งสำคัญคือการวิเคราะห์ผลลัพธ์ เพื่อดูว่ากลยุทธ์นั้นมีประสิทธิภาพเพียงใด คุณสามารถดูผลตอบแทนรวม (Total Return), ความเสี่ยงที่เกิดขึ้น (Risk), และอัตราส่วนผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Sharpe Ratio) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการตัดสินใจว่าจะใช้กลยุทธ์นั้นต่อไปหรือปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น

เคล็ดลับในการทำ Backtest ที่มีประสิทธิภาพ

  • ใช้ข้อมูลที่ครอบคลุมและหลากหลาย: การทดสอบกลยุทธ์ควรทำกับข้อมูลในช่วงเวลาต่าง ๆ และกับสินทรัพย์หลายประเภท เพื่อให้แน่ใจว่ากลยุทธ์ของคุณสามารถทำงานได้ในสถานการณ์ตลาดที่แตกต่างกัน
  • หลีกเลี่ยงการ “Curve Fitting”: อย่าปรับสูตรหรือกลยุทธ์ให้เหมาะกับข้อมูลในอดีตมากเกินไปจนเกินจริง เพราะอาจทำให้ผลลัพธ์ที่ได้จากการทดสอบไม่สอดคล้องกับการใช้งานในอนาคต
  • ทดลองกับข้อมูลจริง (Walk-Forward Testing): หลังจากทำ Backtest เสร็จแล้ว ลองทดสอบกับข้อมูลจริงในอนาคต เพื่อดูว่ากลยุทธ์ของคุณยังคงทำงานได้ดีหรือไม่

ให้กำลังใจสำหรับผู้เริ่มต้น

การเริ่มต้นใช้งานโปรแกรม AmiBroker และการทำ Backtest อาจดูซับซ้อนในช่วงแรก แต่หากคุณฝึกฝนและเรียนรู้ไปทีละขั้นตอน คุณจะเริ่มคุ้นเคยและสามารถวิเคราะห์ตลาดได้อย่างมั่นใจ อย่าลืมว่าการทดสอบและปรับปรุงกลยุทธ์เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาตัวเอง อย่าเพิ่งท้อใจถ้ากลยุทธ์ที่คุณทดสอบยังไม่สำเร็จ เพราะทุกครั้งที่คุณล้มเหลวเป็นการเรียนรู้ที่มีค่าในการพัฒนาทักษะของคุณ

คำถาม

  1. AmiBroker Backtest คืออะไรและมีความสำคัญต่อการซื้อขายหุ้นอย่างไร?
  2. ส่วนประกอบหลักของการทำ Backtest ใน AmiBroker มีอะไรบ้าง?
  3. Analysis Document และ Formula ต่างกันอย่างไร?
  4. ทำไมต้องเริ่มต้นศึกษาจากส่วน Analysis Document ก่อน?
  5. ขั้นตอนการเปิดใช้งาน AmiBroker เพื่อทำ Backtest มีอะไรบ้าง?

สรุป

Backtest เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการทดสอบกลยุทธ์การเทรดหุ้นในโปรแกรม AmiBroker โดยการใช้ข้อมูลในอดีตเพื่อดูว่ากลยุทธ์นั้นมีประสิทธิภาพเพียงใด การทำ Backtest ที่ดีต้องการการตั้งค่าที่ถูกต้องและการวิเคราะห์ผลลัพธ์อย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจได้ว่ากลยุทธ์ที่คุณใช้งานสามารถสร้างผลตอบแทนได้จริงในอนาคต หากคุณเป็นมือใหม่ ขอให้เริ่มต้นด้วยการเรียนรู้พื้นฐาน ฝึกฝน และไม่ยอมแพ้ต่อความท้าทาย เพราะเส้นทางสู่ความสำเร็จในการลงทุนต้องการความพยายามและความมุ่งมั่น

คำสำคัญ: Backtest,  การวิเคราะห์กราฟ, การทดสอบกลยุทธ์, มือใหม่

อ้างอิง: E301 Intro to AmiBroker Backtest