ข้อผิดพลาดในการบริหารความเสี่ยงในระบบ M3 Money และวิธีหลีกเลี่ยง

ข้อผิดพลาด ในการบริหารความเสี่ยง (Risk Management) ในระบบ M3 Money ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้เรียนต้องทำความเข้าใจ เพื่อให้การเทรดมีความแม่นยำและประสบความสำเร็จในระยะยาว บทความนี้จะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจถึงข้อผิดพลาดหลัก ๆ และวิธีป้องกันที่ช่วยให้การจัดการความเสี่ยงมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การตั้งค่าตัวเลือกที่ไม่สมเหตุสมผลใน Backtesting

การตั้งค่า Initial Equity ที่ไม่สอดคล้องกับเงินลงทุนจริงหรือการตั้งค่าคอมมิชชั่นที่ผิดพลาด อาจทำให้ผลลัพธ์ของ Backtesting มีความแตกต่างจากสภาวะตลาดจริงอย่างมาก ผู้เรียนควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่าเหล่านี้สมจริงและตรงกับสถานการณ์จริงที่คาดหวังในการเทรด

การตั้งค่าเริ่มต้นในโปรแกรมและผลกระทบในการใช้งานจริง

ข้อผิดพลาดอีกประการหนึ่งคือการไม่เข้าใจการตั้งค่าเริ่มต้นในโปรแกรม เช่น การตั้งค่า Exit at Stop และ Activate Stops Immediately ในโปรแกรม AmiBroker ซึ่งส่งผลต่อการปฏิบัติจริงในการเทรดในตลาดจริง การตั้งค่าเหล่านี้อาจส่งผลกระทบอย่างมากหากไม่เข้าใจให้ถ่องแท้

การตั้งค่า Stop Loss และ Trailing Stop อย่างไม่ละเอียด

การตั้งค่า Stop Loss และ Trailing Stop ควรได้รับการวิเคราะห์ให้ละเอียดผ่าน Sensitivity Analysis เพื่อเลือกใช้ค่าที่สอดคล้องกับลักษณะการเทรดและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ การทดสอบค่าต่าง ๆ ช่วยให้ทราบถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และช่วยให้สามารถปรับการตั้งค่าได้อย่างเหมาะสม

การจัดการ Position Risk ตามกลยุทธ์

ในการบริหาร Position Risk การตั้งค่า Stop Loss ควรสะท้อนความผันผวนที่แท้จริงของหุ้นเพื่อให้ระบบคงที่และปลอดภัย การปรับ Position Risk ตามกลยุทธ์ช่วยให้ระบบสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้ดีขึ้น

ความแตกต่างระหว่าง On-going Risk และ Initial Risk

ความเสี่ยงทั้งสองประเภทนี้มีความสำคัญแตกต่างกัน Initial Risk เกิดขึ้นก่อนเริ่มการเทรด ขณะที่ On-going Risk เป็นความเสี่ยงขณะถือ Position ผู้เรียนควรพิจารณาความเสี่ยงเหล่านี้แยกจากกัน และใช้เทคนิคการจัดการที่แตกต่างกันเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว

การควบคุมความเสี่ยงในระดับ Position และ Portfolio

การไม่ควบคุมความเสี่ยงในระดับ Portfolio อาจทำให้การเทรดมีความเสี่ยงมากกว่าที่ควรจะเป็น การใช้การกระจายความเสี่ยงและการวิเคราะห์ Portfolio Risk เป็นส่วนที่ช่วยลดผลกระทบของการขาดทุนในตลาดได้ อีกทั้งยังช่วยให้ผู้เรียนสามารถจัดการความเสี่ยงในหุ้นแต่ละตัวให้เหมาะสมกับความผันผวนของตลาด

การคำนึงถึง Market Risk ในการตัดสินใจ

การมองข้าม Market Risk เป็นข้อผิดพลาดที่สำคัญ เมื่อสภาวะตลาดไม่เอื้ออำนวย การปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งจำเป็น การวิเคราะห์สภาวะตลาดอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงในตลาดและสามารถปรับตัวได้ทันเวลา

การปรับกลยุทธ์การเทรดให้ตรงกับความเสี่ยงที่สามารถควบคุมได้

ในระบบการเทรด การปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับความเสี่ยงที่ควบคุมได้ เช่น การเลือกใช้ Stop Loss ที่เหมาะสมและการตั้งค่าความเสี่ยงของแต่ละ Position ให้ตรงกับ Portfolio Risk เป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มความมั่นคงในระยะยาว การทดสอบและวิเคราะห์กลยุทธ์อย่างต่อเนื่องทำให้ผู้เรียนสามารถคาดการณ์ผลลัพธ์และปรับแผนให้เข้ากับสภาวะตลาดได้ดี

การใช้โปรแกรมและการตั้งค่าทางเทคนิคอย่างเหมาะสม

ในการใช้งานโปรแกรมต่าง ๆ เพื่อการเทรด ความเข้าใจในฟังก์ชันและการตั้งค่าต่าง ๆ เป็นสิ่งสำคัญ หากผู้เรียนไม่รู้จักวิธีการใช้เครื่องมือต่าง ๆ อย่างละเอียด อาจเกิดข้อผิดพลาดที่ส่งผลต่อผลลัพธ์ของการเทรด ควรศึกษาและทดสอบการตั้งค่าทั้งหมดก่อนเริ่มการเทรดจริง

คำถาม

  1. Broker Commission และ Slippage ควรตั้งค่าในการ Backtest อย่างไร?
  2. การทำงานของ Stop Loss Execution ใน AmiBroker มีรูปแบบใดบ้าง?
  3. Initial Risk และ Ongoing Risk แตกต่างกันอย่างไรในการจัดการความเสี่ยง?
  4. การคำนวณ Maximum Position Size ควรพิจารณาปัจจัยใดบ้าง?
  5. Portfolio Heat ที่เหมาะสมควรอยู่ในระดับใด และเพราะเหตุใด?

สรุป

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการบริหารความเสี่ยงในระบบ M3 Money นั้นมีหลายประการ เช่น การตั้งค่าที่ไม่สมเหตุสมผลใน Backtesting, การตั้งค่า Stop Loss ที่ไม่เหมาะสม หรือการไม่พิจารณาความเสี่ยงของ Market Risk. การปรับกลยุทธ์ให้ตรงกับ Position Risk และการคำนึงถึง Portfolio Risk เป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการเทรด

คำสำคัญ: ข้อผิดพลาด, การจัดการความเสี่ยง, Stop Loss, Market Risk, Position Risk

อ้างอิง: D803-2 Mistakes in M3 Details