Trading Platform เป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้การเทรดและการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ การทำงานของแพลตฟอร์มนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้กระบวนการเทรดเป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่ยังช่วยในการจัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบและแม่นยำ ทั้งนี้ Trading Platform ประกอบไปด้วยส่วนสำคัญ ได้แก่ Hardware, Software, และ Data ซึ่งแต่ละส่วนมีความสำคัญในการทำให้แพลตฟอร์มทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
Hardware ที่จำเป็นสำหรับการใช้งาน Trading Platform
การเลือกใช้ Hardware ที่มีประสิทธิภาพสูงและเหมาะสมเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับ Trading Platform โดยทั่วไปแล้วควรใช้ Desktop ที่สามารถปรับแต่ง BIOS ได้ เพื่อให้การทำงานของแพลตฟอร์มเป็นไปอย่างต่อเนื่องและปลอดภัย แม้ว่าการเลือก CPU อย่าง i5 จะเพียงพอสำหรับการเทรดแบบ End of Day แต่หากใช้งานสำหรับ Backtesting หรือ การทำ Coding ควรเลือก i7 ที่มีการประมวลผลที่รวดเร็วและรองรับหลายเทรด เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
นอกจากนี้การเลือกใช้หน่วยความจำ (RAM) ที่เพียงพอ เช่น 16GB รวมถึงพื้นที่เก็บข้อมูลอย่างน้อย 1TB จะช่วยให้การประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วและเสถียรเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยให้การดึงข้อมูลหรือการส่งคำสั่งซื้อขายเป็นไปอย่างลื่นไหล ควรติดตั้งอุปกรณ์สำรองไฟฟ้า (Battery Backup) เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดจากการไฟดับและให้แน่ใจว่าการทำงานของแพลตฟอร์มจะไม่หยุดชะงัก
ซอฟต์แวร์และภาษาโปรแกรมที่จำเป็น
การทำงานของ Trading Platform อย่างมีประสิทธิภาพนั้น จำเป็นต้องมีการใช้ ซอฟต์แวร์ หลายชนิด โดยโปรแกรมหลักที่ใช้ในการทำ Exploration และสแกนหุ้นคือ AmiBroker ซึ่งมีภาษาสำหรับการเขียนโค้ดคือ AFL ที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถสร้างสัญญาณซื้อขายหรือปรับกลยุทธ์การลงทุนได้อย่างอิสระ
นอกจาก AmiBroker แล้ว Microsoft Excel ที่มาพร้อมกับ VBA เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการจัดการข้อมูลและสร้างกระบวนการอัตโนมัติภายในแพลตฟอร์ม ผู้เรียนสามารถใช้ VBA ร่วมกับ Excel เพื่อคำนวณและจัดการข้อมูลได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกการเขียนโปรแกรมอื่น ๆ เช่น Visual Basic และ C# ซึ่งสามารถนำมาใช้พัฒนาแอปพลิเคชันเสริมในแพลตฟอร์มได้อีกด้วย
ผู้ให้บริการข้อมูล (Data Providers)
ใน Trading Platform ข้อมูลที่มาจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือถือเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจลงทุน ตัวอย่างผู้ให้บริการข้อมูลหลักมีทั้ง Chaloke.com, SiamChart.com, SiamQuant.com และ eSignal ซึ่งแต่ละเจ้ามีจุดเด่นและการสนับสนุนที่แตกต่างกัน
ตัวอย่างเช่น eSignal มีข้อมูลทั้งแบบ End of Day และ Intraday รวมถึงข้อมูลที่ปรับ Split Adjusted ซึ่งเหมาะสำหรับการวิเคราะห์ระยะสั้น ส่วน SiamQuant จะให้ข้อมูลที่ครบครันสำหรับการวิเคราะห์ในระยะยาว ทั้งนี้ผู้เรียนควรพิจารณาค่าใช้จ่ายของบริการแต่ละเจ้าว่ามีความคุ้มค่าและสอดคล้องกับกลยุทธ์การลงทุนหรือไม่
การตั้งค่า Strategies และการสื่อสาร
การวางแผนและการปรับใช้กลยุทธ์หรือ Strategies เป็นส่วนที่สำคัญใน Trading Platform กลยุทธ์เหล่านี้สามารถบันทึกและเรียกใช้ได้ผ่านไฟล์ที่มีนามสกุล .APX, .AFL และ .Chart ซึ่งสามารถนำมาใช้งานร่วมกันในแพลตฟอร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพและหลากหลาย ผู้เรียนสามารถเลือกใช้งานกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในตลาดปัจจุบัน
นอกจากนี้ Trading Platform ยังรองรับการสื่อสารผ่าน Line, Email และ SMS ซึ่งช่วยให้ผู้เรียนได้รับการอัปเดตข้อมูลที่สำคัญ เช่น สัญญาณซื้อขาย และการเปลี่ยนแปลงของสถานะการลงทุน การสื่อสารแบบนี้ช่วยให้การเทรดเป็นไปอย่างทันท่วงทีและทันสมัย
สแนปชอต
คำถาม
- Hardware สำหรับ Trading Platform ควรมีคุณสมบัติอะไรบ้าง และทำไมจึงต้องมี BIOS setting?
- การเลือกใช้ Microsoft Excel และ VBA แทน .NET มีข้อดีอย่างไร?
- Data Provider แต่ละรายมีจุดเด่นและข้อจำกัดอย่างไร?
- การเลือก Data Provider ควรพิจารณาตามระดับประสบการณ์และขนาดพอร์ตอย่างไร?
- ทำไมไม่จำเป็นต้องใช้ CPU ที่แรงมาก (i7 หรือ Xeon) สำหรับ Trading Platform?
สรุป
องค์ประกอบของ Trading Platform ประกอบด้วย Hardware, Software, และ Data ที่ได้รับการจัดการและการประสานงานอย่างดี เพื่อลดความซับซ้อนในกระบวนการเทรดและเพิ่มความแม่นยำ โดยใช้ Strategies ที่เหมาะสมและการสื่อสารผ่าน Line, Email และ SMS เพื่อให้ผู้เรียนได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและสามารถทำการเทรดได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
คำสำคัญ: Trading Platform, Hardware, Software, Data Providers, Strategies
อ้างอิง: Q501-3 Components of Trading Platform
โพสนี้ถูกสรุปสั้นๆโดย A.I. เพื่อใช้ทวนจาก VDO อ้างอิง ผู้เรียนควรต้องดูวิดีโอนั้นๆ